การขาดความตระหนักรู้เกี่ยวกับวิธีที่เราดำรงอยู่
ในศตวรรษที่ 21 นี้ พวกเราอยู่ในยุคที่การบิดเบือนข้อมูลเป็นเรื่องแพร่หลาย และหลายคนก็หลงเชื่อสิ่งที่เรียกว่า “ข้อเท็จจริงทางเลือก” (alternative truths) นี่เป็นการปะทุของสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตระหนักได้เมื่อหลายพันปีก่อนว่าเป็นสาเหตุที่แท้จริงของความทุกข์ทั้งปวง นั่นคือการขาดความตระหนักรู้ หรือที่เรียกกันว่า “อวิชชา” นั่นเอง การขาดความตระหนักรู้ในลักษณะนี้ไม่ได้หมายถึงการไม่รู้ว่าอินเทอร์เน็ตทำงานอย่างไร หากแต่เป็นการขาดความตระหนักรู้และความสับสนเกี่ยวกับผลระยะยาวของพฤติกรรมเรา และที่รองรับสิ่งนี้ การขาดความตระหนักรู้และความสับสนเกี่ยวกับความเป็นจริง โดยเฉพาะเรื่องวิธีการดำรงอยู่ของเรา ซ้ำร้ายเรายังเชื่ออีกว่าความเห็นที่ผิดของเรานั้นเป็นความจริงแท้แน่นอน
เรามาลองพิจารณากันให้ใกล้ขึ้น พวกเราต่างประสบกับเสียงในหัวที่พูดถึงแต่ “ตัวฉัน ตัวฉัน ตัวฉัน” เมื่อใช้จุดนี้เป็นที่ตั้งแล้ว เราจึงเชื่อโดยอัตโนมัติว่ามีตัวตนที่สามารถพบได้ ที่เรียกว่า “ฉัน” โดยแยกออกจากร่างกายและจิตใจ ซึ่งตัวตนนี้เป็นผู้สั่งการเสียงนั้น ความเชื่ออันสับสนดังกล่าวได้รับการตอกย้ำอยู่เรื่อย เพราะเมื่อใดที่เราบ่นในหัวเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ “ตัวฉัน” หรือคิดว่า “ฉัน” จะทำอะไรต่อไปดี เราจะรู้สึกว่ามันมีตัวตนของ “ฉัน” อันมั่นคงที่เราห่วงหาอยู่จริง แน่นอนว่าพวกเราดำรงอยู่จริง พระพุทธเจ้าทรงมิได้ปฏิเสธข้อนี้ ปัญหาคือการที่เราไม่ได้ดำรงอยู่ในรูปแบบที่เรารู้สึกเหมือนที่ว่าเราดำรงอยู่นั่นเอง พวกเราต่างไม่ได้ตระหนักถึงข้อเท็จจริงนี้ พวกเราต่างเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในความเป็นจริงทางเลือกนี้ จึงทำให้เราเกิดความสับสนอย่างสมบูรณ์