โลกนี้มักจะดูเหมือนจะเป็นสถานที่บ้าๆบอๆ แค่เปิดข่าว ผู้ก่อการร้ายกำลังจะโจมตี เศรษฐกิจแย่ และสิ่งแวดล้อม อย่าแม้แต่จะถาม มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คุณอยากนอนอยู่บนเตียงตลอดทั้งสัปดาห์
และนั่นก็เป็นเพียงโลกภายนอก เราต้องจัดการกับชีวิตของเราเองด้วย วันหยุดหน้าไปเที่ยวไหนดี เราจะเผชิญหน้ากับเพื่อนร่วมงานที่เพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งที่เราต้องการอย่างมากได้อย่างไร เราจะทำอย่างไรกับชีวิตของเราจริงๆ
เมื่อเรายังอยู่ในวัยเยาว์ เราถูกบอกว่าเราสามารถกลายเป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น พวกเขากล่าว “เดินตามความฝันของคุณ” แต่มีกี่คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในความฝันนั้น พวกเรากี่คนเลื่อนดูฟีดโซเชียลมีเดียของตน อิจฉาคนที่ดูเหมือนจะใช้ชีวิตตามความฝันจริง ๆ วันหยุดที่ชายหาดและฟันขาวที่สมบูรณ์แบบ - พวกเขาพบกุญแจสู่ชีวิตในขณะที่เราติดอยู่ในสำนักงานที่น่าเบื่อ
แนวคิดเรื่อง "ความสุข" นี้อาจดูเหมือนเป็นเทพนิยายหรือเป็นเพียงสโลแกนโฆษณา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำงานอยู่ตอนนี้เพื่อให้เพลิดเพลินในอนาคตที่ไม่ระบุรายละเอียด แต่ทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่รับประกันความสุข บางคนจบปริญญาเอกแล้วก็มาทำงานที่แมคโดนัลด์ ขณะที่คนอื่นๆ ร่ำรวยและมีชื่อเสียงอย่างเหลือเชื่อ แต่จบลงด้วยภาวะซึมเศร้าและฆ่าตัวตาย ทั้งหมดนี้ทำให้เราวิตกกังวลในชีวิต และนำไปสู่ความวิตกกังวลทางสังคม ซึ่งเราเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่นอยู่เสมอ เมื่อใดก็ตามที่เราเจอใครเข้าตาเรารู้สึกอึดอัดและไม่มั่นใจ เราพยายามซ่อนอยู่หลังหน้าจอสมาร์ทโฟนของเรา
นี่คือโรคระบาดแห่งยุคของเรา มันอาจจะดูไม่อันตรายเท่าโรคเอดส์ มะเร็ง หรือภาวะซึมเศร้า แต่ความวิตกกังวลทำให้พลังงานหมดไป และสร้างความรู้สึกเบื้องหลังไม่สบายใจอย่างต่อเนื่อง เป็นสิ่งที่พาให้เราทำตัวเองฟุ้งซ่านด้วยละครทีวีเรื่องใหม่และการเลื่อนดูฟีดเฟสบุคของเรา ทั้งหมดเป็นเพราะเราพบว่าการอยู่คนเดียวกับความคิดของเรานั้นทนไม่ได้ เราต้องมีหูฟังและดนตรีตลอดเวลาเพื่อที่จะสามารถทนทุกสิ่งได้
มันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนี้ เราทุกคนรู้ว่าเราควรขอบคุณสำหรับสิ่งที่เรามีในชีวิตของเรา และไม่ควรเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น แต่สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร เราจะเอาชนะความวิตกกังวลนี้ได้อย่างไร
ถอยหลังออกมา
เราต้องถอยออกมาและวิเคราะห์ชีวิตเรา ฟังดูน่าเบื่อ แต่เราก็ข้ามมันไม่ได้ เราต้องการอะไรในชีวิต ไม่มีทางที่ถูกต้องสำหรับทุกคน แต่มีคนอยู่บนเส้นทางเดียวกันก่อนเรา เราอาจต้องการเป็นร็อคสตาร์ แต่เราจะมีความสุขจริงๆ ไหมที่มีปาปารัสซี่ไล่ตามเราตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ร็อคสตาร์มีความสุขมากขึ้นในช่วงหลายปีผ่านมาแล้วหรือไม่ มีกี่คนที่หันมาพึ่งแอลกอฮอล์และยาเสพติด จากนั้นเราต้องคิดว่าเราเต็มใจที่จะทุ่มเทเวลาและพลังงานที่ใช้สำหรับสิ่งนั้นหรือไม่
หาแบบอย่าง
หากเราพบวิถีชีวิตที่ทำให้ชีวิตมีความสุขและมีความหมายมากขึ้น ขั้นตอนต่อไปคือการหาใครสักคนที่เป็นตัวเป็นตน หากเราจะเป็นนักดนตรีที่ยิ่งใหญ่ได้ เราต้องซ้อมปฏิบัติ การเป็นนักฟุตบอล เราต้องซ้อมปฏิบัติ ถึงจะเดินได้ก็ต้องซ้อม ถึงแม้ตอนนี้จะจำไม่ได้แล้วก็ตามประเด็นในที่นี้คือไม่มีเหตุก็ไม่มีผล การเดินทางไปถึงเป้าหมายในชีวิตต้องใช้ความทุ่มเทแบบอย่างสามารถให้คำแนะนำแก่เราและเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญได้
ช่วยเหลือผู้อื่น
มันง่ายมากที่จะซึมซับความคิดและความต้องการของเราเอง เรามักจะคิดในสิ่งที่เราอยากได้หรือต้องการในชีวิต และทุกครั้งที่มีคนมาขวางทางเรา เราก็สติแตก ความวิตกกังวลส่วนใหญ่คือความรู้สึกโดดเดี่ยว แต่วิธีที่ดีที่สุดในการเชื่อมต่อกับผู้อื่นคือการเอาใจใส่พวกเขาอย่างแท้จริง หากเราคิดถึงแต่ตัวเอง เราจะต้องเศร้าซึมอย่างแน่นอน ในขณะที่การช่วยเหลือผู้อื่นอย่างสุดใจได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าสามารถบรรเทาความวิตกกังวลและเพิ่มความสุขของเราได้
มันไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องใหญ่ ยิ้มให้ใครซักคนในวันที่มืดมน หรือ แค่ขอบคุณใครสักคนอย่างจริงใจ ก็เพียงพอแล้วที่จะเติมกำลังใจให้ทั้งสองฝ่าย อย่าทำด้วยความรู้สึกผูกพัน แต่ด้วยความปรารถนาจริง ๆ ที่จะทำให้วันของใครบางคนสดใส หลังจากนั้นดูว่าสภาพจิตใจของคุณเป็นอย่างไรบ้าง
ตระหนักว่าคุณเป็นใคร
เราทุกคนชอบคิดว่าเราไม่เหมือนใคร แต่นี่เป็นเพียงการพิสูจน์ว่าเราเหมือนกันหมด เมื่อเราพูดว่า “ตระหนักว่าคุณเป็นใคร” ก็คือการเข้าใจว่าพวกเราเป็นใคร เราทุกคนล้วนมีปัญหา ชีวิตที่สมบูรณ์แบบไม่มีอยู่จริง อย่าเชื่อทุกสิ่งที่คุณคิด
เช่นเดียวกับที่เราจะไม่แสดงรูปถ่ายที่เราคิดว่าเราดูแย่ คนอื่นก็เช่นกัน เรากลัวที่จะถูกเยาะเย้ยในที่สาธารณะ และคาดเดาอะไร ทุกคนก็เช่นกัน แม้ว่าเราจะอยู่ในยุคที่เราเห็นชีวิตดูเหมือนสมบูรณ์แบบมากมาย แต่เราไม่ควรตกหลุมพราง หากเรามีสติรู้ตัวทั่วพร้อมในประเด็นเหล่านี้ พยายามนำความสุขให้ผู้อื่นด้วยใจจริง มุ่งทำชีวิตของตนให้มีความหมาย ความวิตกกังวลของเราจะค่อยๆ คลายลง